Stop Work Authority: ถ้าเห็นว่างานเสี่ยง “ขอหยุดก่อน” ได้เสมอ

Stop Work Authority (SWA) คือสิทธิและหน้าที่ของทุกคนหน้างานในการบอกว่า “หยุดก่อน” เมื่อเห็นสัญญาณอันตราย ไม่ต้องรอหัวหน้า และจะไม่ถูกลงโทษถ้าหยุดด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย เป้าหมายไม่ใช่หยุดให้บ่อย แต่หยุดให้ทันก่อนเกิดเหตุ แล้วค่อยกลับมาทำใหม่อย่างปลอดภัย

SWA คืออะไร…แบบเข้าใจง่าย

นึกภาพคุณกำลังจะยกของด้วยเครน แต่ลมแรงกว่าปกติ พื้นยังไม่ปูแผ่นรอง และมีคนเดินตัดหน้าโซนยก คุณรู้สึก “ไม่สบายใจ” นั่นแปลว่า SWA ต้องทำงานแล้ว คุณมีสิทธิพูดคำสั้น ๆ ว่า “หยุดงานก่อน” จากนั้นทุกคนจะช่วยกันกั้นพื้นที่ เช็กสาเหตุ และแก้ให้เรียบร้อยก่อนเริ่มใหม่

เมื่อไหร่ควรหยุด

ใช้ความรู้สึก + เหตุผลง่าย ๆ: ถ้าแผนงานยังไม่ชัด , เครื่องมือหรืออุปกรณ์กันตกไม่พร้อม, สภาพอากาศไม่ปลอดภัย, พื้นอ่อนหรือกางขาเครนไม่สุด, มีคนหรือสิ่งกีดขวางในเขตกั้น, หรือได้กลิ่นสารเคมี/เห็นการรั่วไหล ให้ขอหยุดก่อนเสมอ อย่ารอให้ “เกิดเหตุ” แล้วค่อยแก้ไข

พูดอย่างไรให้ทั้งไซต์เข้าใจพร้อมกัน

ใช้ประโยคสั้น ชัด และเสียงดังพอให้ได้ยินร่วมกัน เช่น “หยุดงานก่อนครับ/ค่ะ จุดนี้เสี่ยง” แล้วตามด้วยสาเหตุสั้น ๆ “ลมแรงเกินเกณฑ์/ยังไม่ได้กางขาครบ/มีคนในเขตกั้น” ถ้ามีวิทยุ ให้ทวนซ้ำด้วยประโยคเดิมพร้อมระบุตำแหน่ง

หยุดแล้วทำอะไรต่อ

ขั้นตอนมีแค่สี่คำจำง่าย: หยุด – กั้น – เช็ก – เริ่มใหม่ หยุดเครื่องหรือหยุดการเคลื่อนไหวก่อน จากนั้นกั้นพื้นที่ให้ปลอดภัย ดึงคนออกจากจุดเสี่ยง หัวหน้างานกับผู้ปฎิบัติงาน เข้ามาเช็กตามแผนงาน/คู่มือผู้ผลิต แล้วแก้ที่ต้นเหตุ เช่น ปูแผ่นรอง เพิ่มจุดยึด เปลี่ยนวิธีสื่อสาร เมื่อทุกอย่างพร้อมจริง ค่อยอนุญาตให้เริ่มใหม่และบรีฟทีมสั้น ๆ ก่อนลงมือ

ถ้าความเห็นไม่ตรงกัน

ให้ถือหลักว่า “ไม่พร้อม = ยังไม่เริ่ม” เก็บงานไว้ก่อน แล้วให้ HSE หรือวิศวกรเป็นคนชี้ขาด อย่ากดดันให้ทำต่อเพียงเพราะตารางงาน

ทำให้วัฒนธรรมนี้เกิดจริง

หัวหน้างานต้องหนุนหลังคนที่กล้าหยุด บอกขอบคุณต่อหน้าทีม บันทึกเหตุเป็น Near Miss สั้น ๆ และเล่าบทเรียนให้ทุกคนฟัง ยิ่งทีมเห็นว่าหยุดแล้ว “ปลอดภัยกว่า เร็วกว่าการแก้เหตุใหญ่” คนก็จะยิ่งกล้าพูดคำว่า “หยุดก่อนครับ/ค่ะ” มากขึ้น